วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก วันนี้ ฟอเรสต์ VS ลิเวอร์พูล
สนาม : เดอะ ซิตี้ กราวน์ด
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 1
29/10/23 ลิเวอร์พูล ชนะ ฟอเรสต์ 3-0
22/04/23 ลิเวอร์พูล ชนะ ฟอเรสต์ 3-2
22/10/22 ฟอเรสต์ ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
21/03/22 ฟอเรสต์ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 / เอฟเอ คัพ
29/02/24 แพ้ แมนฯยู 0-1 (เหย้า) เอฟเอ คัพ / รอง 0.25 … เสีย
24/02/24 แพ้ แอสตัน วิลล่า 2-4 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 1 … เสีย
17/02/24 ชนะ เวสต์แฮม 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.25 … ได้
11/02/24 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 2-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.25 … เสีย
08/02/24 เสมอ บริสตอล ซิตี้ 1-1 (เหย้า) เอฟเอ คัพ / ต่อ 1 … เสีย (ชนะจุดโทษ 5-3)
29/02/24 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 3-0 (เหย้า) เอฟเอ คัพ / ต่อ 1.25 … ได้
25/02/24 เสมอ เชลซี 0-0 (กลาง) ลีก คัพ / ต่อ 0.25 … เสียครึ่ง (ชนะต่อเวลาพิเศษ 1-0)
22/02/24 ชนะ ลูตัน 4-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.75 … ได้
17/02/24 ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 4-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.75 … ได้
10/02/24 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 2.25 … เสียครึ่ง
ฟอเรสต์ ของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต เพิ่งจะเปิดรังพ่ายให้กับ แมนฯยู 0-1 ในศึก เอฟเอ คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนฟาดแข้ง ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก คริส วู้ด, อิบราฮิม ซ็องกาเร่, นูโน่ ตาวาเรส, โอล่า ไอน่า กับ วิลลี่ โบลี่ เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงค้างสต๊อคซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า เอสปิริโต้ ซานโต เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี ไตโว่ อาโวนิยี่ ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ แอนโธนี่ อีลังก้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ กับ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ผนึกกำลังกันสร้างสรรค์เกมรุกอยู่ด้านหลังตามสูตร
ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – นูโน่ ตาวาเรส (7 นัด), โอล่า ไอน่า (14 นัด/1 ประตู), วิลลี่ โบลี่ (15 นัด/1 ประตู)
กองกลาง – อิบราฮิม ซ็องกาเร่ (11 นัด)
กองหน้า – คริส วู้ด (20 นัด/8 ประตู)
ฟอเรสต์ (4-2-3-1) : มัตซ์ เซลส์ – เนโก้ วิลเลี่ยมส์, เฟลิเป้, มูริลโล่, แฮร์รี่ ทอฟโฟโล่ – ดานิโล่, นิโกลัส โดมิงเกวซ – แอนโธนี่ อีลังก้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย – ไตโว่ อาโวนิยี่
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังถล่มเอาชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 3-0 ในศึก เอฟเอ คัพ ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ จะไม่มีชื่อแปดแข้งเดี้ยงตามลิสต์ด้านล่างซึ่งยังไม่หายดี ขณะที่บรรดา โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, วาตารุ เอนโด กับ โดมินิค โซโบสไล ต้องรอเช็คฟิตจนวินาทีสุดท้าย คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, โคดี้ กั๊คโป กับ หลุยส์ ดิอาซ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ รับอาสาคุมจังหวะจากแดนกลางตามระเบียบ
ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
ผู้รักษาประตู – อลิสซง เบ็คเกอร์ (21 นัด)
กองหลัง – โฌแอล มาติป (10 นัด), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (21 นัด/2 ประตู)
กองกลาง – สเตฟาน บายเซติช (-), ธิอาโก้ อัลคานตาร่า (1 นัด), เคอร์ติส โจนส์ (17 นัด/1 ประตู), ไรอัน กราเวนเบิร์ช (19 นัด)
กองหน้า – ดิโอโก้ โชต้า (19 นัด/9 ประตู)
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีมิน เคลเลเฮอร์ – โจ โกเมซ, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, บ๊อบบี้ คลาร์ค – คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, โคดี้ กั๊คโป, หลุยส์ ดิอาซ
ต้องยอมรับว่า ลิเวอร์พูล ยุคยังบลัดกับโปรแกรมบอลถ้วยสองรายการติด ถือว่าโชว์ผลงานกันได้ดีและน่าจะพอทดแทนรุ่นใหญ่ที่แท็คทีมกันเดี้ยงแบบยกแพ็ค ยิ่งล่าสุดที่เปิดรังเอาชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 3-0 ในศึก เอฟเอ คัพ ถือว่าทำงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม ด้านฟอร์มการเล่นในลีกก็กำลังมั่นใจหลังกำชัย 7 จาก 8 เกมท้าย (แพ้ 1) และผลิตสกอร์เป็นกอบเป็นกำรวมทั้งสิ้นกว่า 26 ประตูเลยทีเดียว สวนทางกับเจ้าถิ่น ฟอเรสต์ ที่ปราชัย 4 จาก 6 หนท้ายในลีกและชนะแค่คราเดียวเท่านั้น (เสมอ 1) แถมโดนทะลวงแนวรับยับเยินร่วมๆ 13 ตุงอีกด้วย เชื่อว่าสภาพความมั่นใจแบบนี้กับทรงบอลแบบนี้น่าจะรอดยาก ฉะนั้นเมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมต่างๆ แนะนำอยู่ต่อไม่ต้องรอลงอาญา
